Author: admin

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยมีหลายแห่งมากมาย จะให้เล่าแบบ 3 วัน 3 คืนก็ยังไม่จบ บางแห่งนี้บอกเลยว่าสวยมีความเป็นเอกลักษณ์จนต้องใช้คำว่า หากไม่อยากพลาดโอกาส ก็ควรจะไปให้ได้สักครั้งหนึ่งก่อนตาย บางคนอาจจะคิดว่าที่พูดมานั้นเกินจริงไปหน่อย แต่เชื่อเหอะว่าบางแห่งมันสวยจนเราไม่อยากให้คุณพลาดไปเลยจริงๆ อย่างเช่น เกาะขาม ที่เราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้

น้ำใสมาก

เล่าให้ฟังสักนิดหนึ่งก่อนว่า เกาะขามนั้น เป็นเกาะที่อยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เดิมทีเกาะแห่งนี้ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมมากนัก เนื่องจากต้องรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เลยเปิดให้บริการท่องเที่ยวเป็นบางช่วง นั่นทำให้สภาพธรรมชาติโดยรอบของเกาะขามแห่งนี้ดูดีอยู่มาก การเดินทางก็ต้องนั่งเรือไปเสียค่าตั๋วและค่าเดินทางคนละประมาณ 200 บาท

หากนั่งเรือเข้าไปใกล้เกาะขามจะรู้เลยว่า เงินที่เสียไปนั้นคุ้มค่ามาก เพราะอะไร น้ำทะเลใสถึงใสมาก ใสจนมองเห็นพื้นใต้ทะเลได้เป็นอย่างดีทีเดียว ยิ่งถ้าเราได้ไปนั่งเรือเที่ยวชมรอบเกาะที่เป็นเรือท้องกระจกด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้เราเห็นความใสของน้ำมากขึ้นไปอีก คิดดูว่าเราจะได้เห็นปะการังจากท้องเรือได้เลยแบบไม่ต้องเพ่งอะไรมากมาย

ดำน้ำดูปะการัง

ใครที่ยังไม่เคยดำน้ำดูปะการังมาก่อน แนะนำว่าไปเล่นได้ที่เกาะขามเลย เพราะเค้ามีบริการเครื่องมือ และ จุดชมปะการังสำหรับนักท่องเที่ยวเอาไว้แล้ว ราคาก็ไม่แพงมากประมาณ 50 บาท(ค่าหน้ากาก) ดำน้ำดูปะการังที่นี้จะเป็นการดูปะการังน้ำตื้น ทำให้เราแม้จะเป็นคนที่ไม่เคยดำน้ำลึกมาก่อน (แต่ว่ายน้ำเป็น) ก็สามารถไปทำกิจกรรมดังกล่าวได้ ขอบอกเลยว่า ปะการังที่นี่สวยมาก น้ำใสทำให้เราเพลินเล่นกันได้ยาวๆ อีกเรื่องที่ต้องบอกว่าไปก่อนดำน้ำต้องบังคับใส่เสื้อชูชีพทุกคน เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการของเกาะ

เดินชมวิวรอบเกาะ

หลังจากขึ้นจากน้ำ เราขอแนะนำว่าถ้าเหนื่อยก็กินข้าวจากร้านค้าสวัสดิการของทีมแม่บ้านทหารได้เลย อร่อย ไม่แพง (เค้าห้ามเอาอะไรขึ้นเกาะเลยเพื่อป้องกันขยะ) ต่อจากนั้นเราจัดเลยไปเดินชมวิวรอบเกาะกัน มีจุดถ่ายรูป จุดเล่นน้ำเยอะมาก เค้ามีการทำทางเดินเอาไว้หมดแล้ว มั่นคง ปลอดภัย แนะนำว่าถ้าขาใครยังไหว ขึ้นไปจุดชมวิวมุมสูงเลยดีกว่า รับรองว่าสวยมากสวยจนคิดว่าคุ้มแล้วที่มา และจะเสียใจที่ไม่ได้มา สมคำโปรยที่ว่าไว้ว่าอยากให้ลองมาเกาะขามสักครั้งก่อนตายจริงๆ

 

 

การเดินทางท่องเที่ยวด้วย Bigbike ถือเป็นความใฝ่ฝันของหลายคนที่จะได้สนุกไปกับชีวิตธรรมชาติรอบตัว ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เราจึงอยากแนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหาทริปดีๆ ไปกับ 2 ล้อคู่ใจ ลองเปิดทริปเกาะกูดดูแล้วจะรู้ว่าความสนุกของการเดินทางไม่ได้มีแค่การไปถึงเป้าหมายแต่มันอยู่ที่ระหว่างทางเราได้พบเจออะไรบ้างต่างหาก บอกเลยการเดินทางไม่ยากแถมใครไม่อยากเหนื่อยจะแวะพักระยองสักคืนก็แล้วแต่สะดวกเลย

ควบ 2 ล้อคู่ใจ Bigbike ไปเกี่ยวเกาะกูด

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเกาะกูดด้วย Bigbike ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับแม้ระยะทางจะราว 350 กม. ก็ไม่ใช่ปัญหาเลย แนะนำถ้าใครไม่อยากแวะพักที่ไหนก็ออกเช้ามืดหน่อยวิ่งเส้นบางนา – ตราด เข้าถึงจังหวัดชลบุรีจากนั้นใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองชลเพื่อเข้าไปยัง อ.บ้านบึง ต่อเข้า อ.แกลง จ.ระยอง ตรงนี้หากใครอยากแวะเที่ยวชิลล์ๆ ก็มีที่เที่ยวเยอะ เช่น หาดแม่รำพึง, หาดสวนสน จากระยองเข้าไปถึงจันทบุรี ถ้าอยากชิลล์ก็แวะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วก่อนก็ได้แล้ววิ่งสายสุขุมวิทยาวๆ มาจนถึงท่าเรือแหลมศอก

จริงๆ แล้วที่ท่าเรือจะมีเรือให้บริการ 2 แบบ คือ เรือโดยสารทั่วไปกับเรือสปีดโบ๊ทตรงนี้เลือกเอาได้เลยว่าชอบแบบไหนอีกอย่างคือควรจองเรือก่อนเดินทางเพื่อจะได้เช็คว่ามีที่จอด Bigbike ของเราหรือไม่ (ส่วนใหญ่คนจะจองเพื่อจะได้ทั้งเรือและที่จอดรถทีเดียวเลยไม่ต้องเสียเวลาไปลุ้นเอาหน้างาน) เราทำการจอด Bigbike ฝากเอาไว้แล้วขึ้นเรื่อข้ามไปเที่ยวเกาะกูดกันต่อได้เลย

ต้องบอกว่าบนเกาะกูอาจไม่ได้สะดวกสบายเหมือนกับเกาะอื่น ๆ มากนักตรงที่เขายังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง อาหารการกินจะแพงพอสมควร เน้นความเงียบสงบ การพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว สามารถพบเจอกับธรรมชาติทั้งบนบกและในน้ำได้อย่างน่าสนใจ ส่วนมากการจองที่พักบนเกาะกูดจะรวมอาหารไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าใครเบื่อหรืออยากกินอะไรใหม่ๆ ก็หาได้แต่อย่างที่บอกราคาเอาเรื่องไม่น้อย

กิจกรรมบนเกาะกูดก็หลากหลาย เช่น ดำน้ำ, เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ทัวร์รอบเกาะ, พายเรือคายัค หรือเล่นแพดเดิ้ลบอร์ด เน้นความสวยงามจากธรรมชาติเพื่อให้เข้าถึงอย่างเต็มที่ ขากลับเราก็จะกลับจากเรือที่ติดต่อไว้เช่นกัน เมื่อถึงฝั่งแล้วก็ควบ Bigbike คู่ใจกลับกรุงเทพฯ ได้เลย แต่ถ้าใครเหนื่อยก็อย่างที่บอกสามารถแวะพักที่พักแถวระยอง, จันทบุรี หรือชลบุรี สักคืนก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อนหรือเหนื่อยจนเกินไป ทริป Bigbike ไปเกาะกูดก็ถือว่าสำเร็จเสร็จสิ้น น่าเที่ยวอย่างที่เห็นนี่เอง

คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติกับทริปหัวหินได้สายๆ เลยครับ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจาก กทม มากนัก จึงสามารถขับรถ bigbike ไปเองได้เลย เพราะเส้นทางค่อนข้างเดินทางง่าย ยิ่งเป็นจักรยานยนตร์ ยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดด้วย ส่วนในเรื่องของพลังงานหรือร้านอาหารก็สามรถแวะได้ตามข้างทาง เลยครับ

สิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการระหว่างเดินทาง

ซึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการระหว่างเดินทางนั้น ก็คือ ปั้มน้ำมันที่ข้างในมีบริการมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือ ห้องน้ำ ซึ่งหลักการดูง่ายๆ ว่าปั้มไหนมีอะไรบ้าง ก็เพียงแค่ดูจากป้ายหน้าปั้มน้ำมันเพราะจะมีโลโก้ร้านอาหารบอกอยู่ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป ซึ่งเส้นที่สู่ใต้จะมีปั้มใหญ่อยู่ 1 ปั้มก็คือ ทางเข้าเพชรยุรี ซึ่งเป็นปั้มใหญ่ที่สุดในโลก สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก ครับเราเองการหาซื้อของกินของใช้ได้จากที่นี่เลย หลังจากนั้นจะเป็นเส้นทางธรรมชาติที่ 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนสลับกับต้นไม้ บางช่างมีป่าและ ภูเขา ให้ขมด้วยเพราะจังหวัดนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา ทะเลก็มีเช่นกัน แต่ใมนบางช่วงต้องระวังสัตว์ให้ดีโยเฉพาะวันเพราะเมื่อถึงเวลคนเลี้ยงต้องต้อนวัวกลับบ้าน ดังนั้นช่วงที่ผ่านตกชะรอรถ หรือหยุดรอเลยก็ได้เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง เมื่อผ่านเพชรบุรีไปแล้วผมแนะนำให้ใช้เส้นทางคู่ขนาน เพื่อไปสู่หัวหินเพราะสามารถมองเห็นธรรมชาติได้อย่างจัดเจน และ รถก็ไม่เยอะอีกด้วยทำให้ท่านเดินทางได้เร็ว ขึ้นมาก เมื่อถึงหัวหินแล้วสามารถเลือกที่พักติดทะเลได้เลยมีทั้งเป็นแบบบ้านหลังเดี่ยวสำหรับผู้ที่มาหลายคนหรือเป็นบังกะโลเล็ก ๆ พร้อมอาหารที่สั่งได้ตลอดเวลา ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงยิ่งจองไว้ก่อนยิ่งถูกครับ